วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ประเทศโปรตุเกส



ประเทศโปรตุเกส



ชื่อทางการ  สาธารณรัฐโปรตุเกส ( República Portuguesa) 
พรมแดน  ติดกับประเทศสเปนในทางทิศเหนือและทิศตะวันออก และอยู่ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติกในทางทิศตะวันตกและทิศใต้ 
ภูมิประเทศ  ทางภาคเหนือของโปรตุเกสประกอบด้วยเทือกเขา ที่ราบสูง และ หุบเขาที่มีแม่น้ำไหลผ่าน ซึ่งปกคลุมพื้นที่ราว 1 ใน 3 ของประเทศ บริเวณภาคตะวันตกและภาคใต้ภูมิประเทศเป็นเนินเขาเตี้ยๆ และที่ราบต่ำ ต่อด้วยที่ราบชายฝั่งกว้างใหญ่แล้วค่อยๆลาดลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติก แม่น้ำที่สำคัญของโปรตุเกสได้แก่ แม่น้ำโดอุโร (Douro) แม่น้ำกวาเดียน่า (Guadiana) และแม่น้ำเทกัส (Tagus)  
ภาษาทางการ  ภาษาโปรตุเกส
ระบบการปกครอง  ประชาธิปไตยระบบรัฐสภา มีประธานาธิบดีเป็นประมุข ซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยตรง
เมืองหลวง  ลิสบอน
เมืองสำคัญอื่นๆ  ปอร์โต (Porto) โคอิมบรา (Coimbra) เซตูบาล (Satubal) ฟาโร (Faro)

พื้นที่  รวม  92,391 ตร.กม. 
สกุลเงิน  ยูโร (€,EUR) โดย 1 EUR ประมาณ 40 บาท
ประชากร  ประมาณ 11 ล้านคน
รหัสโทรศัพท์  351





โปรตุเกส ( Portugal) หรือ สาธารณรัฐโปรตุเกส ( República Portuguesa) ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้ของคาบสมุทรไอบีเรียทางตอนใต้ของทวีปยุโรป โปรตุเกสมีพรมแดนติดกับประเทศสเปนในทางทิศเหนือและทิศตะวันออก และอยู่ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติกในทางทิศตะวันตกและทิศใต้ นอกจากนี้ ยังประกอบด้วยหมู่เกาะหลายแห่งในมหาสมุทรแอตแลนติก อาทิ อะซูรึส (Azores หรือ Açores) เกาะมาเดราและโปร์ตูซันตู และหมู่เกาะซาเวจ

โปรตุเกสเป็นประเทศเล็กๆ มีพลเมืองไม่มาก และมีเศรษฐกิจที่ไม่ใหญ่โตเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ โดยทั่วไปในสหภาพยุโรป

มีประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่  กล่าวคือเป็นประเทศยุโรปแห่งแรก ที่ส่งกองเรือเดินทางสำรวจทางทะเล เพื่อค้นหาดินแดนใหม่ๆ ที่ชาวยุโรปในยุคนั้นไม่เคยรู้จักกันมาก่อน โดยการสนับสนุนทุนทรัพย์อย่างแข็งขันโดยราชสำนักโปรตุเกส

โปรตุเกสเป็นต้นกำเนิดของอารยธรรมแตกต่างกันในช่วง 3,500 ปีที่ผ่านมา ทั้งอารยธรรมของชาวไอบีเรีย (Iberians) ชาวเซลต์ (Celts) ชาวฟีนีเชีย (Phoenicians) ชาวคาร์เทจ (Carthaginians) ชาวกรีก (Greeks) ชาวโรมัน (Romans) ชาวเผ่าเยอรมัน (Germanic tribes people) และอาหรับ (Arabians)

ชาวโรมันเรียก"โปรตุเกส" ว่า "Portus Cale" อาจมาจากการผสมคำระหว่างภาษากรีก และภาษาละติน หมายความว่า "ท่าเรือที่สวยงาม" ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 15- 16 โปรตุเกส คือ ประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ การเมืองและวัฒนธรรม กระจายไปทั่วโลก

หลังจากประเทศมหาอำนาจอื่น ๆ พัฒนาขึ้นอำนาจของโปรตุเกสก็เสื่อมถอย
โปรตุเกสเป็นประเทศที่เก่าแก่มากชาติหนึ่งในสหภาพยุโรป และเป็นประเทศที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ชาติไทยของเรามาเนิ่นนานนับหลายร้อยปี  โดยชื่อโปรตุเกสนั้น เป็นชื่อที่ชาวโรมันตั้งให้ว่า Portus Cale ซึ่งมีความหมายว่า "ท่าเรือที่สวยงาม" จึงไม่น่าแปลกใจที่มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากต่างเดินทางไปยังดินแดนแห่งนี้ ด้วยเพราะโปรตุเกสเป็นประเทศที่สวยงาม มีอากาศอบอุ่น ฤดูหนาวไม่หนาวจัด ทางภาคใต้ของโปรตุเกสมีอากาศอบอุ่นตลอดปี นอกจากนี้การเดินทางยังมีความสะดวกสบาย  การบริการขนส่งสาธารณะ เช่น รถเมล์ รถราง รถไฟใต้ดิน หรือรถแท็กซี่ มีอย่างแพร่หลายและค่อนข้างจะทั่วถึง ค่าครองชีพเมื่อเทียบกับยุโรปด้วยกันแล้วก็ไม่สูง คือราคาอาหารมือหนึ่งตกอยู่ที่ประมาณ 260 บาท น้ำดื่มขวดเล็กตกอยู่ที่ประมาณ 30 บาท ค่าตั๋วรถโดยสารอยู่ที่ประมาณ 50 บาท

ภูมิประเทศ

               ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป บนคาบสมุทรไอบีเรีย ทิศตะวันตกและทิศใต้ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก โปรตุเกสนับเป็นประเทศที่อยู่ทางทิศตะวันตกสุดของภาคพื้นทวีปยุโรป โดยจุดตะวันตกที่สุดของประเทศ คือ พื้นที่บริเวณแหลมโรก้า (Cabo da Roca) ส่วนทางทิศเหนือและทิศตะวันออกมีพรมแดนติดกับส่วนตะวันตกของประเทศสเปน นอกจากนี้ ประเทศโปรตุเกสยังมีดินแดนภาคพื้นสมุทรซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศโปรตุเกส นั่นคือ หมู่เกาะมาไดย์ร่า (Madeira) และหมู่เกาะอะซอรึช (Açores) ในมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งทั้งสองเกาะนี้เป็นเขตการปกครองตนเอง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของโปรตุเกส

สภาพอากาศในโปรตุเกส
อุณหภูมิสูงสุดเกิดขึ้นในภูมิภาค Alentejo ในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือโปรตุเกสที่ลมจากทะเลที่ไม่เย็นเช่นใน Algarve ในที่อุณหภูมิน้ำทะเลแอลจะสูงกว่าบนชายฝั่งตะวันตก
ฤดูหนาวอากาศจะอ่อนด้วยอุณหภูมิ : อุณหภูมิเฉลี่ยในปอร์โตเป็น 10 ° C ในลิสบอน, อุณหภูมิของอากาศเฉลี่ย 12 ° C ที่ระดับน้ำทะเลและไม่ค่อยถึงจุดแข็ง ฤดูหนาวใน Algarve จะอ่อนมากกับอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 15 ° C และปริมาณน้ำฝนน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญในภาคเหนือ
ฝนมากที่สุดในโปรตุเกสมาจากพฤศจิกายน-มีนาคม พายุเฮอริเคนจะหายากในโปรตุเกสมีข้อยกเว้นของพื้นที่ภูเขาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและในภูเขาที่สูงที่สุดของโปรตุเกสที่ Serra da Estrela

ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงที่มีความสวยงามและอากาศสบายกับเวลาที่เหมาะที่จะเยี่ยมชมและการเดินทางภายในประเทศคือ ฝนฟ้าคะนองที่อาจเกิดขึ้นจะไม่หนักเกินไปและมักจะไม่นาน
เดือนที่ร้อนและร้อนมากที่สุดคือ : เมษายน-พฤษภาคม -- มิถุนายน -- กรกฎาคม - สิงหาคม -- กันยายน -- ตุลาคม 
สถาปัตยกรรม
Mosteiro dos Jeronimos



ตั้งอยู่ในเขตเบเลม สถาปัตยกรรมแบบมานูเอลไลน์ (Manuelline)ซึ่งเป็นศิลปะกอธิคในสไตล์โปรตุเกสที่ได้รับอิทธิพลมาจากต่างประเทศ  มีลวดลายที่สวยงามของซุ้มประตู หน้าต่างและหัวเสา มีการดัดแปลงมาจากพืชน้ำ เปลือกหอย และ เชือกสมอเรือ ฯลฯ ใช้เวลาสร้างนานถึง 70 ปี โดยองค์การยูเนสโกของสหประชาชาติได้ขึ้นทะเบียนให้อารามหลวงแห่งนี้เป็นมรดกโลกด้วย


หอคอยแห่งเบเลม (Torre de Belem)



 หอคอยแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง แต่ก่อนเคยมีหน้าที่เป็นประภาคารและเป็นป้อมปราการที่คอยปกป้องเขตเบเลม เนื่องจากบริเวณใกล้ๆกันจะมีสิ่งก่อสร้างสำคัญมากมาย ทั้งพระราชวัง อารามหลวง และอื่นๆ ตอนที่เริ่มสร้างใหม่ๆ  หอคอยแห่งนี้สร้างขึ้นในระหว่างปี 1515-1521 โดยได้รับอิทธิพลจากแขกมัวร์ และมีส่วนผสมของศิลปะเรอเนสซองซ์

พระราชวังซิงตร้า
ผสมผสานด้วยศิลปะหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่ปลายศตวรรษที่14จนถึงต้นศตวรรษที่16จุดเด่นของการตกแต่งภายในคือศิลปะแบบอะซูเรจู(Azureju)ที่ห้องโถงอาราเบียน หรือห้องอาหารมีการจัดแสดงหีบบรรจุกระสุนที่มีภาพวาดสรรพาวุธของผู้ที่มีชื่อเสียงในสมัยด้วยโคมระย้าฝีมือช่างสกุลเวเนเชียน(Venetian)ชั้นเลิศ

อารามนิกายโดมินิกัน (Dominican) แห่งบาตานญา (Batalha) สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะของชาวโปรตุเกสที่มีต่อชาวคาสตีย์ (Castilians) ในสงครามอัลชูบาร์โรตา (Aljubarrota) ในคริสต์ศักราช ๑๓๘๕ (พุทธศักราช ๑๙๒๘) อารามแห่งนี้เป็นโครงการก่อสร้างหลักของสถาบันกษัตริย์ของโปรตุเกสตลอดช่วง ๒ ศตวรรษต่อมา ณ สถานที่นี้ รูปแบบประจำชาติของโปรตุเกสที่มีความเป็นตัวตนที่แท้จริงได้ วิวัฒน์ขึ้น ซึ่งได้รับอิทธิพลอย่างลึกซึ้งจากศิลปะมานูเอลีน (Manueline art) ดังเห็นได้จากส่วนรอยัล คลอยสเตอร์ 


เพิ่มเติม



ศิลปะการตกแต่งผนังด้วยกระเบื้องดินเผา(Azurejo)

แบบโปรตุเกส ซึ่งนิยมกันมากในศิลปะแบบรอคโกโกลวดลายช่อดอกไม้ในแจกันปากกว้างบนกระเบื้องดินเผาเคลือบกรุผนังชั้นล่างของจวน เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงความสุขและชื่นชมยินดี



ลวดลายใบไม้และช่อดอกแบบฝรั่ง



บานประตูไม้แกะสลักเป็นรูปทวารบาลทหารโปรตุเกสของเก่าน่าจทำขึ้นในช่วงเดียวกับที่ได้รับพระราชทานที่ดินให้สร้างจวนกงศุลโปรตุเกสประมาณรัชกาลที่2


อาหาร
ร้าน Antiga Confeitaria de Belem




เป็นร้านกาแฟที่เก่าแก่ของประเทศโปรตุเกสในกรุงลิสบอน เปิดทำการตั้งแต่ราวศตวรรษที่ 17 จุดเด่นของร้านนี้จะเสิร์ฟกาแฟให้ลูกค้าด้วยถ้วยกาแฟกระเบื้องสีน้ำเงินและขาวแบบโบราณ โดยโปรตุเกสเป็นแหล่งค้ากาแฟระหว่างยุโรปกับประเทศในแถบลาตินอเมริกามาเป็นเวลาหลายร้อยปี และเมื่อจิบกาแฟแล้วต้องทานขนมพื้นเมืองคือ คัสตาร์ตทาร์ต ด้วย

อาหารโปรตุเกส ได้ชื่อว่ามีรสชาติอร่อยถูกปากที่สุดประเทศหนึ่งในยุโรปซึ่งนิยมบริโภคปลาเป็นอาหารหลัก อาหารขึ้นชื่อของประเทศนี้คือ บาคัลเยา (Bacalhau) หรือ ปลาคอดดองเกลือ นอกจากนี้หลายคนคงจะเคยได้ยินกันมาบ้างว่า ประเทศโปรตุเกสเป็นผู้เข้ามาถ่ายทอดวิธีทำขนมหวานให้กับบรรพบุรุษของไทย จนได้ประยุกต์เป็นขนมหวาน เช่นพวกทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ดังนั้นเมื่อได้ไปโปรตุเกสก็ควรไปชิมของหวานของโปรตุเกส เช่น Pastel de Mata และ Ovos Moles เป็นต้น



ของที่ระลึก





ไก่ไม้ จากโปรตุเกส 
               ไปร้านขายของที่ระลึกที่ไหนก็เห็นแต่ไก่นี้เต็มไปหมด ที่มาก็มาจากตำนาน ไก่แห่งเมือง Barcelos
 ตำนานเล่าว่า วันหนึ่งเศรษฐีเมือง Barcelos เชิญแขกเหรื่อมางานเลี้ยงที่บ้านตัวเอง หลังจากจบงาน พบว่า ช้อนเงินที่ใช้ในงานหายไป หาคนขโมยไม่ได้ เศรษฐีก็หาแพะรับผิดได้หนึ่งคน แล้วก็เอาตัวส่งศาล ในศาล ผู้ต้องหาแพะก็ยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่ศาลก็ไม่เชื่อ ผู้ต้องหาชี้ไปที่ไก่ตัวนึง แล้วบอกว่า ถ้าบริสุทธิ์จริง ก็ให้ไก่ตัวนั้น ขันสามที ว่าจบแล้ว ไก่ตัวนั้น ก็ขันขึ้นมาสามที จริงๆ เป็นอันว่า ศาลก็ต้องยอมปล่อยผู้ต้องหานั้นแต่โดยดี






World Plus Tour Co., LTD
 8/29 ถ.สุคนธสวัสดิ์ แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230 Tel : 02-542-3900 Fax : 02-542-3911
Website :
www.worldplustour.com  E-mail : info@worldplustour.com
สเปน - โปรตุเกส 10 วัน 7 คืน (TG)
ราคา 109,900.- บาท


โปรแกรมทัวร์
สเปน - โปรตุเกส 10 วัน 7 คืน (TG)
ราคา 109,900.- บาท

อัตราค่าบริการ

ผู้ใหญ่ พักห้องคู่ (ห้องละ 2 ท่าน) ราคาท่านละ
109,900.-
เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน ราคาท่านละ
109,900.-
เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี 1 ท่าน มีเตียงเสริม พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน ราคาท่านละ
93,900.-
พักห้องเดี่ยว เพิ่มท่านละ
20,000.-
** โรงแรมในยุโรป ไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าพักแบบไม่มีเตียงเสริม **



วันแรก
กรุงเทพฯ
20.30
คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ประตู 2 เคาน์เตอร์ D โดยสายการบินไทย ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและสัมภาระ
วันที่สอง
กรุงเทพฯ มาดริด โตเลโด้ กรานาด้า
00.05
เหิรฟ้าสู่ กรุงมาดริด โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 948        
08.00
ถึง สนามบินบาราจัส (Barajas) กรุงแมดริด ประเทศสเปน หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร แล้วนำท่านเดินทางสู่ เมืองโตเลโด้ (Toledo) อดีตเมืองหลวงเก่าตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 ศูนย์กลางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของสเปน เริ่มต้นการเที่ยวชมเมืองจากหน้าสถานีรถไฟแบบนีโอมูเดฆาร์ที่รูปทรงทางสถาปัตยกรรมที่แปลกตา ข้ามสะพานแบบโรมันดั้งเดิม (ปูเอนเต เด อัลกานตารา) บนเนินเขาท่านจะเห็นกัสตีโย เด ซาน เซร์บานโด ป้อมปราการขนาดใหญ่ที่ชาวโรมันสร้างขึ้นเพื่อปกปักษ์รักษาเมือง แล้วเข้าสู่เขตเมืองเก่าโดยผ่านประตูเมืองปูเอร์ตา เด บิซากรา 1 ในประตูเมืองที่มีความสำคัญที่สุด ทุกๆแห่งของเมือง ท่านจะได้ชื่นชมกับความแตกต่างของสถาปัตยกรรม แบบอารบิค, มูเดฆาร์ ,กอธิค และเรอเนสซองส์ เมื่อท่านมาเยือนโตเลโด้แล้วต้องแวะชมคือมหาวิหารโตเลโด้ สถาปัตยกรรมแบบโกธิกที่ยิ่งใหญ่สวยงามแห่งหนึ่งของโลก ก่อนอำลาเมืองแวะจุดชมวิว เพื่อชมทิวทัศน์ของเมืองโตเลโด้ทั้งเมือง ซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่จิตรกรชื่อดังของสเปนเอล เกรโก (EI Greco) ได้จำลองลงในแผ่นภาพที่งดงามยิ่งกว่าของจริง
เที่ยง
บ่าย
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ออกเดินทางสู่สเปนตอนใต้ ในแคว้นอันดาลูเซีย แคว้นแห่งเกษตรกรรมที่มีบทบาทสำคัญต่อสเปนมาทุกยุคทุกสมัย สร้างผลผลิตอาทิ น้ำมันมะกอก พืชไร่ องุ่น ฝ้าย และดอกทานตะวัน เป็นเขตภูมิภาคที่อบอุ่นเนื่องจากอากาศดีตลอดปีเพราะอยู่ติดกับมหาสมุทรและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จนเข้าสู่ เมืองกรานาด้า (Granada) อดีตเมืองหลวงของพวกมัวร์ เมืองที่มีความเจริญสูงสุดทั้งทางวัตถุ และศิลปะที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของพวกมัวร์และชาวยิว
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก โรงแรม ABADES NEVADA PALACE HOTEL หรือเทียบเท่า


วันที่สาม
พระราชวังอะลัมบรา กอร์โดบ้า สุเหร่าเมซกิต้า       
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
รถโค้ชนำท่านสู่ พระราชวังอะลัมบรา (Alhambra Palace) สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ไม่มีอันดับอย่างเป็นทางการ ความสุดยอดแห่งจินตนาการและความสามารถทางศิลปะของมัวร์ ตั้งอยู่บริเวณสันเขาบนเนินเขียวขจี ไม่มีคำบรรยายใดจะเปรียบเปรยความวิจิตรพิสดารและความประณีตสมดุลอันน่าทึ่งนี้ได้ พระราชวังแห่งนี้มิได้ยิ่งใหญ่เฉพาะภายนอก แต่อลังการไปด้วยฝีมืออันประณีตจากช่างฝีมือในยุคก่อนที่ได้สร้างสรรค์การตกแต่งอย่างวิจิตรนำคณะเข้าชม พระราชวังหลวง (Nasrid Palace) โดดเด่นไปด้วยลวดลายแกะสลักบนเพดานไม้ ลายเครือเถาบนปูนปั้นที่ประดับผนังลายลดาวัลย์และลายลูกไม้ฉลุบนเรียวโค้งของเสาหินอ่อน ด้านนอกเป็นสวนสวยราวกับจำลองสวนสวรรค์มาไว้บนดิน ลานดอกเมอร์เทิลขนาบด้วยแนวพุ่มดอกเมอร์เทิล ซาลอน เดโลส เอมบาฆาโดเรส ห้องสำหรับเข้าเฝ้ากษัตริย์ และสุดปลายทางใต้เป็นลานสิงโต สร้างขึ้นรอบน้ำพุโบราณขนาดใหญ่ ห้องพักที่เคยต้อนรับนักเขียนชื่อดังวอชิงตัน เออร์วิง ในปี 1829 ที่เคยพำนักในพระราชวังแห่งนี้นานถึง 3 เดือน และจุดสุดท้ายที่ไม่ควรพลาดชมก็คือพระราชวังเฆเนราลิเฟ เดิมเป็นพระราชวังฤดูร้อนของสุลต่าน ความงดงามของอุทยานสวนอันร่มรื่นและเขียวขจี ประดับด้วยน้ำพุและสระน้ำ สมกับความหมายที่ว่า อุทยานสถาปนิก
เที่ยง
บ่าย 
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เดินทางสู่ เมืองกอร์โดบา (Cordoba) เมืองในระบบกาหลิบที่มีความเจริญรุ่งเรืองที่สุดของยุโรปในศตวรรษที่ 10 มีการสร้างมหาวิทยาลัย เน้นการเรียนรู้ด้านวรรณกรรมและวิทยาศาสตร์ ปรัชญาและการแพทย์ นำท่านเลาะเลียบผ่านเขตกำแพงเมืองเก่าที่ด้านหลังเป็นชุมชนชาวยิว ปราสาทอัลคาซาร์และสะพานแบบโรมัน (ปูเอนเต้ โรมาโน) ทอดตัวข้ามแม่น้ำกวาดัลกีบีร์ แล้วพาเข้าชม สุเหร่าเมซกีต้า สุเหร่าที่มีขนาดใหญ่ของบรรดากาหลิบแห่งอูมัยยาด หากจะเปรียบเทียบความใหญ่โตคงจะไม่สร้างความประหลาดใจ แต่ ณ ที่แห่งนี้คือบทสรุปของการปลูกฝังคริสต์ศาสนาลงบนอาณาเขตอันยิ่งใหญ่ ของมุสลิมเดิม ซึ่งท่านจะได้เห็นศิลปะการสร้างโบสถ์ของ ชาวคริสต์อันยิ่งใหญ่และศิลปะหลายแบบถูกบรรจงเติมแต่งให้สมบูรณ์ จึงเป็นสถาปัตยกรรมที่เปรียบเป็นความงดงามอย่างลึกซึ้งแห่งงานศิลปะ และความเจริญรุ่งเรืองทางศาสนา แต่ในขณะเดียวกันศิลปะแบบมุสลิมซึ่งก็คือมีห์รับ ซึ่งถือเป็น สุดยอดสถาปัตยกรรมชิ้นเอกบนกระเบื้องเซรามิคของศิลปินชาวมัวร์แท้ๆ ได้รับการอนุรักษ์เก็บรักษาให้ทรงคุณค่าความงามจนแทบจะหาชมไม่ได้อีกแล้วบนโลกใบนี้
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก โรงแรม  CORDOBA CENTER HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่สี่
กอร์โดบ้า เซบียา มหาวิหารแห่งเซบียา ปลาซา เด เอสปาญา
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ออกเดินทางต่อสู่ เมืองเซวิลล์ หรือเซบียา (Seville) เมืองใหญ่อันดับ 4 ของสเปนและเป็นเมืองหลวงของ แคว้นอันดาลูเซียเมืองที่เต็มไปด้วยความเขียวขจี พื้นที่โล่ง สวนสาธารณะและสวนดอกไม้เมืองในฝันสำหรับผู้ต้องการสัมผัสชีวิตราตรีอันเร่าร้อนของอันดาลูเซีย นำท่านเข้าชม วิหารแห่งเมืองเซบียา (Seville) มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามรองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่กรุงโรม และเซนต์ปอลที่ลอนดอน และใหญ่ที่สุดในสเปนสร้างด้วยศิลปะแบบโกธิค ภายในตกแต่งได้อย่างงามวิจิตร สร้างขึ้นแทนที่ตั้งของสุเหร่าเดิม โดยต้องการให้ยิ่งใหญ่แบบไม่มีใครเทียบเทียมได้ ในห้องเก็บทรัพย์สมบัติล้ำค่า มีทั้งภาพเขียน, เครื่องใช้ในพิธีของศาสนาที่ทำมาจากทองคำและเงิน ล้วนแต่ประเมินค่ามิได้ อีกทั้งยังเป็นที่เก็บศพของโคลัมบัสอีกด้วย จากนั้นขึ้นชม หอคอยฆีรัลดา (Giralda) ตึกทรงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสูง 93 เมตร (ไม่แนะนำสำหรับท่านที่สุขภาพไม่เอื้ออำนวย) ติดกันกับมหาวิหารเป็นลานส้มและน้ำพุ เพื่อใช้ในพิธีชำระร่างกายของอิสลาม ด้านหน้าเป็นลานกว้างมี ปราสาทอัลคาซาร์ (Alcazar) สถาปัตยกรรมที่ยังคงมีคราบเงาความบรรเจิด และความคิดสร้างสรรค์ของชาวมัวร์ ในอดีตเคยเป็นพระราชวังของกษัตริย์สเปนมาก่อน
เที่ยง
บ่าย 
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านไปชมสิ่งก่อสร้างที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรม การออกแบบของ ปลาซาเดเอสปาญา (Plaza de Espanga) ชมกลุ่มอาคารรูปครึ่งวงกลมเรียงต่อกันเป็นแนวยาว แต่ละโค้งประตูมีตราประจำจังหวัดไล่เรียงตามตัวอักษร ฝั่งตรงข้ามเป็นอุทยานมาเรีย ลุยซ่า ร่มรื่นงดงามตระการตาและแฝงความโรแมนติก อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้ง
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง พร้อมชมและเพลิดเพลินกับดนตรี และระบำฟลามิงโกอันเร่าร้อนสไตล์ อันดาลูเซีย
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก โรงแรม MACARENA SEVILLA HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ห้า
เซวิลล์ ลิสบอน (โปรตุเกส) เอสโตริล ซินทร้า แหลมโรก้า
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่ พรมแดนโปรตุเกส-สเปน ที่เมืองแบฮา เคยตกเป็นเมืองของโรมันในยุคของจูเลียส ซีซาร์ และตั้งให้เป็นเมืองหลวงของแคว้นตะวันตกแห่งอาณาจักรโรมันจนเข้าสู่ กรุงลิสบอน (Lisbon) เมืองหลวงของโปรตุเกส ตั้งอยู่ในทวีปยุโรปตอนใต้บนคาบสมุทรไอบีเรีย
เที่ยง
บ่าย
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ออกเดินทางเลาะเลียบชายฝั่ง มหาสมุทรแอตแลนติก ผ่านเมืองเล็กๆน่ารักแถบชานเมืองลิสบอน จากนั้นเดินทางสู่ เมืองซินทรา (Sintra) อีกหนึ่งเมืองตากอากาศยอดนิยมของนักท่องเที่ยว และยังเป็นที่ตั้งของพระราชวังที่สวยงาม ที่ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย ความร่มรื่นของเขตอุทยานเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจในวันหยุดของชาวเมือง ชม แหลมโรก้า (Capo Da Roca) จุดตะวันตกสุดของยุโรป ท่านสามารถซื้อ Certificate เป็นที่ระลึกสำหรับการมาเยือน ณ ที่แห่งนี้ แล้วเดินทางต่อไปชม เมืองคาสกาย (Cascais) ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่แปรพระราชฐานสู่พระราชวังฤดูร้อนของกษัตริย์หลุยส์ที่ 1 ปัจจุบันเป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงเต็มไปด้วยสีสัน ที่พักตากอากาศชั้นดี , โรงแรมตากอากาศอันทันสมัย ไม่แพ้ที่แห่งใดในโลก ถัดไปเป็น เมืองเอสโตริล (Estoril) ที่ได้รับสมญานามร่วมกับอีกสองเมือง คือ คาสกายน์และซินทรา ว่าเป็น Golden Triangle เมืองตากอากาศที่เต็มไปด้วยความสวยงาม ไม้ดอก และแนวต้นปาล์ม และคลาสสิคด้วยรีสอร์ท ตากอากาศสีพาสเทล ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ กรุงลิสบอน (Lisbon)
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก โรงแรม HOLIDAY INN LISBON CONTINENTAL หรือเทียบเท่า
วันที่หก
เที่ยวกรุงลิสบอน มหาวิหารเจอริโนโม บาดาโฆซ
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เที่ยวชม กรุงลิสบอน ชมอดีตพระราชวังหลวง อายุเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมโกธิคและมัวร์อย่างสวยงาม ปัจจุบันเป็นที่พำนักอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดี ชมวิหารเจอโรนิโม ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ วาสโก ดากามา และการเดินทางสู่อินเดียเป็นผลสำเร็จ ในปี ค.ศ.1498 จัดเป็นผลงานอันเยี่ยมยอดของงานสถาปัตยกรรม ที่เรียกกันว่า มานูเอลไลน์ (Manueline) ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 70 ปี จึงเสร็จสมบูรณ์ และได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ว่าเป็น World Heritage Site ภายในประกอบไปด้วยอาคารสำคัญต่างๆ แล้วไปชมหอคอยเบเล็ม (Belem Tower) เดิมสร้างไว้กลางน้ำเพื่อเป็นป้อมรักษาการณ์ดูแลการเดินเรือเข้าออก และ เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินเรือออกไปสำรวจ และค้นพบโลกของวาสโก ดากามา และนักเดินเรือชาวโปรตุเกส เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของสถาปัตยกรรมมานูเอลไลน์ที่สวยงาม บันทึกภาพกับอนุสาวรีย์ดิสคัฟเวอรี่ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1960 เพื่อฉลองการครบ 500 ปี แห่งการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายเฮนรี่ เดอะเนวิเกเตอร์ และยกย่องนักเดินเรือสำรวจรอบโลก เชิญท่านลองชิมขนมทาร์ตคัสตาร์ด (Nata de Pasteis) ในร้านขนมเก่าแก่ที่ให้บริการมากว่าร้อยปี แวะชิมขนมโปรตุเกส ต้นตำรับของขนมไทย อาทิ ทองหยอด, ฝอยทอง ต้นตำรับแท้ที่โปรตุเกสและเข้าไปเผยแพร่ในกรุงศรีอยุธยา โดยท่านท้าวทองกีบม้า
เที่ยง
บ่าย
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
สมควรแก่เวลาออกเดินทางสู่ เมืองบาดาโฆส (Badajoz) เมืองหลวงของแคว้นเอ็กซ์ตร้ามาดูราทางตอนใต้ของสเปน ห่างจากชายแดนประเทศโปรตุเกสเพียง 6 กม. เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของแคว้น และมีความโดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรมที่พวกมัวร์ทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลัง
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก โรงแรม HUSA ZURBARAN BADAJOZ หรือเทียบเท่า
วันที่เจ็ด
บาดาโฆซ อาบีลา เซอโกเบีย สะพานส่งน้ำโรมัน มาดริด 
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองทาลาบีรา (Talavera) เมืองนี้เป็นเสมือนเมืองแห่งการแสวงบุญ มาตั้งแต่ตอนปลายศตวรรษที่ 16 เป็นเมืองที่มีเรื่องราวอันน่าสลดในขณะที่มีความเจริญรุ่งเรืองควบคู่กันไปด้วย เมืองนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเที่ยวแคว้นกัสตียา อีเลออน นำท่านชม กำแพงเมืองโบราณ ในยุคกลางที่ยังคงมีการอนุรักษ์ไว้ได้เป็นอย่างดี ชม มหาวิหารแห่งอาบิลา และปลาซา เดอซันตาเทเรซา ที่ตั้งของรูปปั้นสีขาวพิสุทธิ์ ของแม่ชีซานตาเทเรซา โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่การที่โป๊ป ได้เสด็จมาเยือนในปี ค.ศ.1982 แม่ชีเทเรซาได้ถือกำเนิดที่เมืองนี้ และเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการปฏิรูปศาสนา และเขียนถึงพระเจ้าในชีวิตของท่าน ในรูปลักษณ์ที่ต่างจากความเชื่อที่นับถือมาแต่ในอดีต
เที่ยง
บ่าย
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เดินทางต่อสู่ เมืองเซอโกเบีย (Segovia) ถนนทุกสายมุ่งหน้าไปยังสิ่งก่อสร้างโรมันที่ใหญ่ที่สุดที่ยังเหลืออยู่ในสเปน แล้วไปชมสะพานส่งน้ำที่ใช้การจนถึงศตวรรษที่ 20 มีฐานโค้ง 165 ช่วง สูง 29 เมตร แล้วไปชม ปราสาทเทพนิยาย ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับ อัลกาซาร์แห่งเมืองเซอโกเบีย ได้ผสมผสานแบบมูเดฆาร์กับปราสาทร่วมสมัยทำให้กลาย เป็นปราสาทในจินตนาการ ความยิ่งใหญ่อลังการของปราสาทแห่งนี้เป็นที่ประทับใจนักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือน ก่อนเดินทางเข้าสู่ แมดริด (Madrid) เมืองหลวงของสเปน
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก โรงแรม HUSA CHAMARTIN HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่แปด
มาดริด พระราชวังหลวง ช๊อปปิ้ง             
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำคณะเที่ยว กรุงแมดริด เมืองหลวงของประเทศสเปนเก่าแก่นับพันปี ตั้งอยู่ใจกลางแหลมไอบีเรียน ในระดับความสูง 650 เมตร เป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เข้าชม พระราชวังหลวง (Palacio Real) ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส มีความสวยงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังอื่นๆในทวีปยุโรปจากแนว ความคิดเปรียบเทียบความใหญ่โตของแวร์ซายส์ และความสวยงามของลูฟว์ในฝรั่งเศสพระราชวังหลวงแห่งนี้ จึงถูกสร้างด้วยหินทั้งหลัง ในปี ค.ศ. 1738 ในสไตล์บาร็อค โดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและ อิตาเลียน ประกอบด้วยห้องต่างๆ มากมายถึง 2,830 ห้อง ซึ่งนอกจากจะมีการตกแต่งอย่างงดงามแล้ว ยังเป็นที่เก็บภาพเขียนชิ้นสำคัญ ที่วาดโดยศิลปินในยุคนั้น รวมทั้งสิ่งของมีค่าต่างๆอาทิ พัดโบราณ, นาฬิกา, หนังสือ, เครื่องใช้, อาวุธ ฯลฯ แล้วชม อุทยานหลวง ที่มีการเปลี่ยนพันธุ์ไม้ทุกฤดูกาลดอกไม้งดงามตลอดปี ชม อนุสาวรีย์เซอร์แวนเตส กวีเอกชาวสเปนที่ตั้งอยู่เหนืออนุสาวรีย์ดอนกิโฆเต้ในสวนสาธารณะ เที่ยวชม น้ำพุไซเบเลส (Cibeles Fountain) ที่สร้างอุทิศให้แก่เทพธิดาไซเบลีน ใช้เป็นสถานที่เฉลิมฉลองในเทศกาลต่างๆของเมือง และอาคารสวยงามใกล้กันคือที่ทำการไปรษณีย์ ผ่านชม ประตูชัยอาคาล่า (Puerta de Alcala) ที่สร้างถวายพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เที่ยวชม ปลาซา เดอ เอส ปันญา (Plaza de Espanga) ใกล้เขตปูเอต้าเดลซอล หรือประตูพระอาทิตย์ จัตุรัสใจกลางเมือง ซึ่งนอกจากจะเป็นจุดนับกิโลเมตรแรกของสเปนแล้ว (กิโลเมตรที่ศูนย์) ยังเป็นศูนย์กลางรถไฟใต้ดิน และรถเมล์ทุกสาย และยังเป็นจุดตัดของถนนสายสำคัญของเมืองที่หนาแน่นด้วยร้านค้ามากมาย และห้างสรรพสินค้าใหญ่อีกด้วย ชม อนุสาวรีย์หมีกับต้นมาโดรนา สัญลักษณ์ของเมือง จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเที่ยวย่าน Walking Street ตามอัธยาศัย
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก โรงแรม HUSA CHAMARTIN HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่เก้า
มาดริด กรุงเทพฯ    
เช้า
09.00
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำคณะเดินทางสู่ สนามบินบาราจัส เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำ คืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน        
13.00
อำลากรุงมาดริดโดยการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 949
วันที่สิบ
กรุงเทพ
06.05
ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร ด้วยความสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

กรุณาอ่านหมายเหตุให้ละเอียดทั้ง 5 ข้อ
หมายเหตุ
1. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อค่าชดเชยความเสียหาย ไม่ว่ากรณีที่กองตรวจคนเข้าเมือง 
ของไทยไม่อนุญาตให้เดินทางออกหรือกองตรวจคนเข้าเมืองของแต่ละประเทศไม่อนุญาตให้เข้าเมือง    
2. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการที่จะไม่รับผิดชอบต่อค่าชดเชยความเสียหาย อันเกิดจากเหตุสุดวิสัยที่ทาง บริษัทฯ ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น การนัดหยุดงาน, จลาจล, การล่าช้าหรือยกเลิกของเที่ยวบิน
3. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมรายการท่องเที่ยว โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
4. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
5. กรณีที่คณะไม่ครบจำนวน 25 ท่าน ทางบริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการงดออกเดินทาง โดยทางบริษัทฯ  จะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า 14 วันก่อนการเดินทาง

ในกรณีที่ลูกค้าต้องออกตั๋วโดยสารภายในประเทศกรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ก่อนทุกครั้ง มิฉะนั้นทางบริษัทฯจะไม่ขอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

โปรแกรมและรายละเอียดของการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศ
และเหตุสุดวิสัยต่าง ๆ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าโดยทางบริษัทฯ จะคำนึงถึงผลประโยชน์และความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทางเป็นสำคัญ







   
อัตราค่าบริการนี้รวม
1. ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นนักท่องเที่ยว ( Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน จำนวนคนและมีค่าใช้จ่ายที่ทางสายการบินกำหนด)
2. ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
3. ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง
4. ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า
5. ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
6. ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
7. ค่ายกกระเป๋าเดินทางท่านละ 1 ใบ (น้ำหนัก 20 กิโลกรัม) / (โรงแรมที่พักบางแห่งอาจไม่มีคนขนกระเป๋า)
8. ค่าประกันภัยอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง(วงเงินประกันอุบัติเหตุสูงสุด ท่านละไม่เกิน 1,000,000 บาทและวงเงินประกันสุขภาพสูงสุด ท่านละไม่เกิน 1,500,000)
9. ค่ามัคคุเทศก์ของบริษัทดูแลตลอดการเดินทาง
10.ค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าประเทศเชงเก้น
11. ค่าทิปมัคคุเทศก์ท้องถิ่นและพนักงานขับรถตลอดรายการเดินทาง
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
1. ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ , ค่าโทรศัพท์ , ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 20 ก.ก.และมากกว่า 1 ชิ้น, ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
3. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
4. ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
เงื่อนไขการจอง
วางเงินมัดจำท่านละ 20,000 บาท โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น
หมายเหตุ
1. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกการเดินทางก่อนล่วงหน้า 14 วัน ในกรณีที่ไม่สามารถทำกรุ๊ปได้อย่างน้อย 20 ท่าน และ/หรือ ผู้ร่วมเดินทางในคณะไม่สามารถผ่านการพิจารณาวีซ่าได้ครบ 20 ท่านในกรณีนี้บริษัทฯ ยินดีคืนเงินให้ ทั้งหมด (ยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าซึ่งได้ชำระไว้กับทางสถานทูตแล้ว) หรือจัดหาคณะทัวร์อื่นให้ถ้าต้องการ
2. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้ และจะไม่รับผิดชอบใดๆ ในกรณีที่สูญหาย สูญเสีย หรือได้รับบาดเจ็บที่นอกเหนือความรับผิดชอบของหัวหน้าทัวร์ และอุบัติเหตุสุดวิสัยบางประการ เช่น การนัดหยุดงาน, ภัยธรรมชาติ, การจลาจลต่างๆ เป็นต้น
เงื่อนไขการสำรองที่นั่ง
1. กรุณาจองล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันก่อนการเดินทาง และกรุณาเตรียมเงินมัดจำ 20,000 บาท พร้อมกับเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าให้เรียบร้อย ภายใน 2-3 วัน หลังจากทำการจองแล้ว (ใช้เวลาขอ วีซ่าไม่ต่ำกว่า 14 วันทำการ)
2. เนื่องจากการยื่นวีซ่า เป็นแบบกรุ๊ปคณะท่องเที่ยว ควรเตรียมเอกสารให้ครบตามที่บริษัทฯ กำหนดและควรเตรียมเอกสารให้ทันทีในกรณีที่เอกสารไม่ครบ เพื่อประโยชน์ในการขออนุมัติวีซ่าจากทางสถานทูต ฯ
3. หากท่านติดธุระหรือไม่สามารถยื่นเอกสารพร้อมคณะเดินทางได้ ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการยื่นวีซ่ากรุ๊ปและท่านจะต้องไปดำเนินการยื่นวีซ่าด้วยตัวท่านเองที่สถานทูตนั้นๆ โดยที่ทางบริษัทฯจะจัดเตรียมเจ้าหน้าที่คอยดูแลท่านที่สถานทูตฯ
4. การชำระค่าทัวร์ส่วนที่เหลือทางบริษัทฯ จะเรียกเก็บก่อนเดินทางไม่น้อยกว่า 15 วัน ท่านควรจัดเตรียมค่าทัวร์ให้เรียบร้อยก่อนกำหนด เนื่องจากทางบริษัทต้องสำรองค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าที่พักและตั๋วเครื่องบิน มิฉะนั้นจะถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยอัตโนมัติ
กรณียกเลิกการเดินทาง
1. แจ้งยกเลิกภายใน 45 วันก่อนเดินทาง เก็บค่าใช้จ่าย ท่านละ 10,000 บาท
2. แจ้งยกเลิกภายใน 30 วันก่อนเดินทาง เก็บค่าใช้จ่าย ท่านละ 20,000 บาท
3. แจ้งยกเลิกน้อยกว่า 20 วันก่อนเดินทาง เก็บค่าใช้จ่าย ท่านละ 80 % จากราคาทัวร์
4. แจ้งยกเลิกน้อยกว่า 15 วันก่อนเดินทาง ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ เก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมด
5. บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมดกรณีท่านยกเลิกการเดินทาง และมีผลทำให้คณะเดินทางไม่ครบตามจำนวนที่บริษัทฯกำหนดไว้ (15ท่านขึ้นไป) เนื่องจากเกิดความเสียหายต่อทางบริษัทและผู้เดินทางอื่นที่เดินทางในคณะเดียวกัน บริษัทต้องนำไปชำระค่าเสียหายต่างๆที่เกิดจากการยกเลิกของท่าน
6. กรณีเจ็บป่วย จนไม่สามารถเดินทางได้ ซึ่งจะต้องมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรับรอง บริษัทฯจะทำการเลื่อนการเดินทางของท่านไปยังคณะต่อไป แต่ทั้งนี้ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถเรียกคืนได้คือค่าธรรมเนียมในการมัดจำตั๋ว และค่าธรรมเนียมวีซ่าตามที่สถานทูตฯ เรียกเก็บ ในกรณีที่ไม่สามารถเดินทางได้
7. กรณียื่นวีซ่าแล้วไม่ได้รับการอนุมัติวีซ่าจากทางสถานทูต (วีซ่าไม่ผ่าน) และท่านได้ชำระค่าทัวร์หรือมัดจำมาแล้ว ทางบริษัทฯ คืนค่าทัวร์หรือมัดจำให้ แต่ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการหักค่าบริการยื่นวีซ่า, ค่าวีซ่า และค่าใช้จ่ายบางส่วนที่เกิดขึ้นจริงเป็นกรณีไป (อาทิ กรณีออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว หรือได้ชำระค่าบริการในส่วนของทางเมืองนอก เช่น โรงแรม ตั๋วรถไฟ ฯลฯ ไปแล้ว) ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการหักเก็บค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นแล้วกับท่านเป็นกรณีไป
8. กรณีวีซ่าผ่านแล้ว แจ้งยกเลิกก่อนหรือหลังออกตั๋วโดยสาร บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการ ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด
9. กรณีวีซ่าผ่านแล้ว แต่กรุ๊ปออกเดินทางไม่ได้ เนื่องจากผู้เดินทางท่านอื่นในกลุ่มโดนปฏิเสธวีซ่า หรือไม่ว่าด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการหักเก็บค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นแล้วกับท่านเป็นกรณีไป
10. กรณีผู้เดินทางไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากเอกสารปลอมหรือการห้ามของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าเหตุผลใดๆตามทางบริษัทของสงวนสิทธิ์ในการ ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด
ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องวีซ่า
1. การอนุมัติวีซ่าเป็นอภิสิทธิ์ของทางสถานทูต ทางบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น ทั้งนี้บริษัทเป็นเพียงตัวกลางและคอยบริการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เดินทางเท่านั้น เงินค่าสมัครยื่นวีซ่า ทางสถานทูตเป็นผู้เก็บ หากผลวีซ่าออกมาว่าท่านไม่ผ่าน ทางสถานทูตจะไม่คืนเงินค่าวีซ่าและค่าบริการจากตัวแทนยื่นไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม และทางสถานทูตมีสิทธิ์ที่จะไม่ตอบเหตุผลของการปฏิเสธวีซ่าในทุกกรณี กรณีที่ท่านวีซ่าผ่าน แต่กรุ๊ปออกเดินทางไม่ได้ เนื่องจากผู้เดินทางท่านอื่นในกลุ่มโดนปฏิเสธวีซ่า ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ใน การไม่คืนเงินค่าวีซ่าและค่าบริการจากตัวแทนอื่นให้กับท่าน เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นโดยสถานทูตเป็นผู้เรียกเก็บ และท่านสามารถนำวีซ่าไปใช้เดินทางได้ หากวีซ่ายังไม่หมดอายุ
ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องตั๋วเครื่องบิน
ในการเดินทางเป็นหมู่คณะ ผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับพร้อมกัน หากต้องการเคลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบิน และบริษัททัวร์เรียกเก็บและการจัดที่นั่งของกรุ๊ป เป็นไปโดยสายการบินเป็นผู้กำหนด ซึ่งทางบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และในกรณียกเลิกการเดินทาง และได้ดำเนินการ ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว (กรณีตั๋ว REFUNDได้) ผู้เดินทางต้องรอ REFUND ตามระบบของสายการบินเท่านั้น
ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องโรงแรมที่พัก
1. เนื่องจากการวางแปลนห้องพักของแต่ละโรงแรมแตกต่างกัน จึงอาจทำให้ห้องพักแบบห้องเดี่ยว (Single) และห้องคู่ (Twin/Double) และห้องพักแบบ 3 ท่าน/3 เตียง (Triple Room) ห้องพักอาจจะไม่ติดกัน
2. โรงแรมในยุโรปส่วนใหญ่อาจจะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำ
3. กรณีที่มีงานจัดประชุมนานาชาติ (Trade Fair) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้นมากและห้องพักในเมืองเต็ม บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
4. โรงแรมในยุโรปที่มีลักษณะเป็น Traditional Building ห้องที่เป็นห้องเดี่ยวอาจเป็นห้องที่มีขนาดกะทัดรัต และไม่มีอ่างอาบน้ำ ซึ่งขึ้นอยู่กับการออกแบบของแต่ละโรงแรมนั้นๆ และห้องแต่ละห้องอาจมีลักษณะแตกต่างกันด้วย 
การเดินทางเป็นครอบครัว
หากท่านเดินทางเป็นครอบครัวใหญ่ หรือเดินทางพร้อมสมาชิกในครอบครัวที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เช่น นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด
เอกสารประกอบการขอวีซ่าสวิตเซอร์แลนด์ ใช้เวลายื่นประมาณ 14 วันทำการ
1. หนังสือเดินทาง (Passport) หนังสือเดินทาง ต้องมีหน้าเหลือสำหรับประทับวีซ่าอย่างน้อย 2 หน้า
ต้องมีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันเดินทาง (สำหรับท่านที่มีหนังสือเดินทางเล่ม
เก่า กรุณานำมาประกอบการยื่นวีซ่าด้วย เพื่อความสะดวกในการพิจารณาวีซ่าของท่าน)
2. รูปถ่าย รูปถ่ายสีหน้าตรงขนาด 2 x 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ (ใช้รูปสีพื้นหลังขาว ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน, สติ๊กเกอร์ใช้ไม่ได้, ห้ามสวมแว่นตาหรือเครื่องประดับ) และกรุณาเขียนชื่อ-นามสกุลตัวบรรจงไว้ด้านหลังรูป
3. สำเนาทะเบียนบ้าน/บัตรประชาชน/สูติบัตร หรือ สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้าเคยเปลี่ยน)
4. หลักฐานการเงิน สำเนาสมุดเงินฝากส่วนตัวของผู้เดินทาง ย้อนหลัง 6 เดือน (กรุณาปรับสมุดเงินฝากแสดงยอดล่าสุดถึง ณ เดือนปัจจุบันให้เรียบร้อยก่อนถ่ายสำเนา) สถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวัน หนังสือรับรองการเงินจากทางธนาคาร (BANK GUARANTEE) กรุณายื่นขอจากธนาคาร โดยใช้เวลาดำเนินงานประมาณ 3 วัน (สถานทูตอาจขอดูสมุดเงินฝากเล่มจริงของท่านในบางกรณี)
5. หลักฐานการทำงาน(ภาษาอังกฤษและเป็นหลักฐานปัจจุบันเท่านั้น) กรณีเป็นพนักงาน หนังสือรับรองการทำงานจากบริษัทฯ ระบุตำแหน่ง, เงินเดือน, วันเริ่มทำงานและช่วงเวลาที่อนุมัติให้ลาหยุด กรณีเจ้าของกิจการ สำเนาใบทะเบียนการค้าและหนังสือรับรองการจดทะเบียนที่มีชื่อของผู้เดินทางเป็นกรรมการหรือหุ้นส่วน พร้อมทั้ง เซ็นชื่อรับรองสำเนาและประทับตราบริษัทฯ (อายุสำเนาไม่เกิน 3 เดือน) กรณีเป็นนักเรียน หรือ นักศึกษา ใช้หนังสือรับรองจากทางโรงเรียนหรือสถาบันที่กำลังศึกษาอยู่
6. กรณีที่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีไม่ได้เดินทางพร้อมบิดามารดาหรือคนใดคนหนึ่ง จะต้องไปทำหนังสือยินยอมให้เดินทางไปต่างประเทศจากอำเภอ หรือเขตที่ท่านอยู่ โดยระบุชื่อผู้ที่เด็กเดินทางไปด้วย พร้อมแนบบัตรประชาชนของบิดาร/มารดา กรณีเด็กอยู่ในความปกครองของบิดาหรือมารดาเพียงคนเดียว จะต้องมีหลักฐานรับรองว่าเด็กอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นั้น เช่น สำเนาใบหย่า พร้อมทั้งบันทึกการหย่าซึ่งแสดงว่าเป็นผู้รับผิดชอบเด็กเด็กอยู่ในความปกครองของผู้อื่น จะต้องมีหลักฐานรับรองว่าเด็กอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นั้น เช่น หนังสือรับรองบุตร บุญธรรม เป็นต้น
7. กรณีสมรสแล้ว สำเนาทะเบียนสมรส, สำเนาใบหย่า หรือ สำเนาใบมรณะบัตร (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต)
8. กรณีเป็นผู้สูงอายุ อายุ 70 ปีขึ้นไป ต้องมีใบรับรองแพทย์ จากโรงพยาบาล (ค่าใช้จ่ายในขอใบรับรองแพทย์ สำหรับผู้สูงอายุ ไม่ได้รวมอยู่ในค่าบริการ)
9. เอกสารที่เป็นสำเนาต้องเซ็นชื่อรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ
ข้อความซึ่งถือเป็นสาระสำหรับท่านผู้มีเกียรติซึ่งร่วมเดินทาง
ทางบริษัทฯ เป็นตัวแทนในการจัดนำสัมมนา และการเดินทางที่มีความชำนาญ โดยจัดหาโรงแรมที่พัก อาหาร ยานพาหนะ และสถานที่ท่องเที่ยวพร้อมทั้งการสัมมนา ดูงาน เพื่อความสะดวกสบาย และเกิดประโยชน์สูงสุดในการเดินทาง ทั้งนี้ทางบริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบในอุบัติเหตุหรือความเสียหายที่เกิดจากโรงแรมที่พัก ยานพาหนะ, อันเนื่องจากอุบัติเหตุรวมถึงภัยธรรมชาติ, โจรกรรม, วินาศกรรม, อัคคีภัย, การผละงาน, การจลาจล, สงครามการเมือง, การผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ, การนัดหยุดงาน, ความล่าช้าของเที่ยวบิน, สายการเดินเรือ, รถไฟ, พาหนะท้องถิ่น, ตลอดจนการถูกปฏิเสธออกวีซ่าจากกงสุล และ / หรือ ส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับสถานเอกอัครราชทูต รวมถึงผู้มีอำนาจทำการแทนประจำประเทศไทย (โดยไม่จำต้องแสดงเหตุผล เนื่องจากเป็นสิทธิพิเศษทางการทูต) ซึ่งอยู่เหนือการควบคุมของบริษัทฯ หมายรวมถึงในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวทั้งใน หรือ ต่างประเทศ แต่ทางบริษัทฯ มีความคุ้มครอง และประกันอุบัติเหตุ ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ ที่รับประกันในกรณีที่ผู้ร่วมเดินทางถูกปฏิเสธโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทย และ/หรือ ต่างประเทศ มิให้เดินทางออก หรือ เข้าประเทศ เนื่องมาจากความประพฤติ พฤติกรรมของผู้เดินทาง ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านการความคุมโรคติดต่อเฉพาะพื้นที่มีการปลอมแปลงเอกสารเพื่อการเดินทาง รวมถึงมีสิ่งผิดกฎหมาย บริษัทฯ จะไม่คืนค่าใช้จ่ายใดๆ รายละเอียดด้านการเดินทาง อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความจำเป็น หรือเพื่อความเหมาะสมทั้งปวง โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้การขอสงวนสิทธิดังกล่าว บริษัท จะยึดถือและคำนึงถึงผลประโยชน์ตลอดจนความปลอดภัยของท่านผู้มีเกียรติ ซึ่งร่วมเดินทางเป็นสำคัญ